เกริ่นก่อน ผมเคยเป็นมนุษย์ว่างงาน และกลายมาเป็นมนุษย์เงินเดือน ทั้งๆที่มีครอบครัวที่อบอุ่น หน้าที่การงานแม้เงินไม่เยอะแต่ก็มั่นคง แต่ผมไม่มีความสุข รู้สึกเลยว่าตัวเองกระจอก เป็นชนชั้นสวะ ชีวิตมีค่าน้อยกว่าเห็บหมา (ขนาดนั้น) เหงาแบบไม่มีสาเหตุ บลาๆ จู่ๆก็เกิดความรู้สึกอยากตาย อยากฆ่าตัวตาย ไปยืนเหม่อมองหน้าต่างได้เป็นชั่วโมง อยากหายไปจากโลก สุดท้ายเริ่มตั้งสติ ปล่อยไว้แบบนี้มีสิทธิ์กินเป็ดขัดส้วมตายแน่ ผมเลยคิดค้นวิธีการฉุดตัวเองออกจากสภาวะอยากตาย และจะต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่จนเพื่อนตะลึง…!!! ให้ได้
ปรากฏว่าผมทำได้ นอกจากเปลี่ยนตัวเองจนเพื่อน แฟน แฟนเพื่อน พ่อแม่พี่น้อง ญาตมิตรทั้งสนิทไม่สนิทตะลึงแล้ว ผมยังมีชีวิตที่ดีจากหน้าตีนและหลังมือเป็นของแถมอีกด้วย
ใครกำลังเบื่อหน่าย ท้อแท้ สิ้นหวัง นอนไม่หลับ ไม่อยากตื่น อยากตาย หรือต้องการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ อยากได้เส้นทางชีวิตใหม่ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร…??? ผมขอแนะนำ 8 วิธี เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่จนเพื่อนตะลึง…!!! ส่งตรงจากประสบการณ์จริง ได้ผลจริง ใครทำแล้วไม่ได้ผล เปลี่ยนเป็นคนใหม่ไม่ได้ ชีวิตไม่ดีขึ้น ยังรู้สึกตัวเองกระจอกเหมือนเดิม เชิญมากระทืบผมฟรีได้เลยครับ…!!! เชิญ…!!!
1. ตั้งเป้าหมายให้ชีวิต
การตั้งเป้าหมายเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดในชีวิต ลองสังเกตุความแตกต่างระหว่างชีวิตของคนที่มีเป้าหมายกับคนที่ไม่มีเป้าหมายนะครับ ฟ้ากับเหว… ตอนที่ชีวิตของผมตกต่ำผมผ่านช่วงเวลาเลวร้ายมาด้วยการตั้งเป้าหมายให้ชีวิต เคยกระจอก เคยโง่ เคยอยากตายยังไง ผมเปลี่ยนใหม่หมด ผมบอกเลยว่าต่อไปนี้กูต้องมีรายได้เดือนละเท่าไหร่ หุ่นกูต้องเป็นอย่างไร เพื่อนฝูงจะต้องรักกูแบบไหน หน้าที่การงานกูในอีกสองปีจะประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ยังไง การตั้งเป้าหมายถึงแม้มันจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่มันจะเป็นแรงขับเคลื่อนชีวิตของเราให้หลุดพ้นจาก Sad Zone อย่างรวดเร็วเหมือนลูกธนูที่ตรงดิ่งไปยังเป้า
2. บอกตัวเองทุกวัน ว่ากูเป็นคนดี กูเป็นคนเก่ง
สาเหตุหนึ่งที่ผมอยากตาย เพราะผมดันโดนเพื่อนที่ทำงานล้อหนักๆอยู่ช่วงหนึ่ง ผมโครตเครียดเลย ทำไมต้องพูดกันแรงขนาดนั้นด้วย การโดนเสียงข้างนอกบอกว่ากูห่วยมันยังไม่เท่าไหร่ แต่การที่เราเชื่อว่ากูห่วยเพราะเสียงคนอื่นจริงๆ มันเลวร้ายสุดยอด หนังสือจิตวิทยาเล่มหนึ่งบอกไว้เลยว่าให้เปลี่ยนความคิดที่มีต่อตัวเองด่วน หายใจเข้าให้บอกว่ากูเป็นคนดีมาก หายใจออกให้บอกว่ากูเป็นคนเก่งมาก ทำอย่างนี้ซ้ำๆๆๆ จนกลายเป็นนิสัย เมื่อไหร่มีความคิดลบ เอาเลย กูเป็นคนดีมาก กูเป็นคนเก่งมาก บอกตัวเองจนตัวเองเชื่อว่ากูเป็นคนเก่งมาก กูเป็นคนดีมากจริงๆ ทัศนคติจากภายในจะเปล่งประกายจนผิวหนังของคุณส่องสว่างเหมือนหลอดไฟ 300 วัตต์เลยทีเดียว
3. ออกกำลังกายพลิกนิสัย
ตอนผมเศร้า ผมไม่มีแรงจะทำอะไร ขังตัวเองในบ้าน ในห้องนอน มองไปไหนก็เห็นแต่ฝ้าเพดาน กำแพง เฟอร์นิเจอร์เดิมๆ ผมบอกตัวเองควรได้สิ่งดีๆก่อนแล้วถึงจะมีกำลังใจทำสิ่งดีๆให้ตัวเอง จนกระทั่งแฟนผมมาเตือนสติ มึงบ้าหรือเปล่า…!!! ผมเลยตัดสินใจคิดกลับด่วน ถ้ายังไม่มีแรง ต้องทำยังไงครับแฟนๆนักอ่านที่รัก กินคาราบาวแดงไง ถุย…!!! จะเอาฝาไปแลกสิบล้านรึไง เราต้องทำสิ่งที่ชาร์จแรง ชาร์จพลังให้กับเรา ด่วน ผมคว้ารองเท้าวิ่งขาดๆ ไปวิ่งเลยครับ ตั้งเป้าวิ่งให้ได้วันละ 30 นาที เอาเข้าจริง 10 นาทีมันก็เหนื่อยแล้ว แต่ค่อยๆวิ่งไปเรื่อยๆ วันไหนได้ออกกำลังกาย วันนั้นนอนหลับ ตื่นมาตัวเบา สบาย มีความสุข ที่สำคัญผมเลือกไปวิ่งหมู่บ้านที่คนรวยๆมันซื้ออยู่กัน วิ่งไปดูบ้านคนรวยไป แล้วบอกตัวเองว่า “ซักวัน คอยดู”
4. ถีบตัวเองจาก Comfort Zone
วิธีการออกจาก Comfort ที่ดีที่สุด ก็คือ การเลือกที่จะทำอะไรใหม่ๆ คุณจะมีความรู้สึกสด ซิง ใหม่ ได้อย่างไรครับถ้าชีวิตคุณมันวนเวียนเป็นหนูถีบจักร ผมตัดสินใจไปเรียนภาษาอังกฤษฟรีที่โบสถ์ ได้ภาษาอังกฤษด้วย ได้เพื่อนต่างเพศ ต่างวัย ต่างหน้าตาด้วย ในตอนนี้ภาษาของผมยังอ่อนแอเหมือนเด็กแรกเกิด แต่ไม่เกินปีผมว่าผมเก่งอย่างแน่นอน การออกไปเจออะไรใหม่ๆช่วยชีวิตผมได้มาก และมันก็จะช่วยชีวิตเพื่อนๆได้เช่นเดียวกัน
5. อ่านสุดยอดหนังสือดี
ผมชอบอ่านหนังสือ เรียกได้ว่าเป็นไส้เดือนหนังสือ ผมสะสมหนังสือไว้เรียงเป็นผนังบ้านได้ (แต่อย่าให้ถ่ายรูปมาอวด เพราะมันกองเละเทะ) หนังสือที่ผมชอบมากคือหนังสือชีวประวัติคนดัง จิตวิทยา และหนังสือประเภทให้ความรู้ เล่มโปรดของผมที่สุด อ่านซ้ำที่สุดคือประวัติ Steve Jobs ผมเอาความรู้สึกตัวเองไปผูกกับประวัติของเขา Steve Jobs ยังเคยรู้สึกพ่ายแพ้ ล้มเหลว ขี้แพ้ เป็นคนที่โลกไม่ต้องการ ณ ตอนนี้ผมเองก็มีอาการแบบนั้น นั่นแสดงว่าผมก็มีสิทธิ์ที่จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน เพราะอย่างน้อยผมก็มีอาการแบบที่เขาเคยมี (คิดบวกสุดๆ 555+)
6. กำจัดต้นเหตุ
ผมมานั่ง List เลย ทำไมจากคนที่ร่าเริง เฮฮาอย่างผมถึงได้มีความรู้สึกขนาดนี้ อันดับแรก ผมไม่ชอบนอนหัวค่ำ ตื่นเช้า ไม่ชอบรถติด เงินไม่พอใช้ ไม่ชอบทำงานโดยขาดแรงบันดาลใจ ไม่ชอบนั่งในที่ทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน และที่สำคัญ ไม่ชอบตัวเอง พอค้นหาสาเหตุเจอแล้ว ก็เริ่มแก้ไขปัญหาทีละข้อ ที่ทำงานไกล รถติด ก็หาที่ทำงานใกล้ขึ้น ไม่ชอบทำงานแบบขาดแรงบันดาลใจ ก็ย้ายไปที่ทำงานที่มีผู้บริหารไฟแรง ไม่ชอบตัวเองก็เปลี่ยนตัวเอง และสุดท้ายก็ลาออกมาเลือกเส้นทางตัวเอง เพราะเงื่อนไขรถติด กับนั่งในออฟฟิตไม่ตอบโจทย์ผม
7. ช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่า
แฟน ผมเป็นคนใจดี ชอบซื้อปลาดุกจากตลาดมาปล่อย แถมยังชอบให้ข้าวหมาวัด แมววัด ด้วย ผมสังเกตุคุณภาพจิตตอนทำบุญ ปรากฏว่าสว่างไสวแม้วันที่ย่ำแย่ (บางครั้งมันกัดกันแย่งอาหาร ก็อยากถีบหมา แต่ต้องเก็บอาการเพราะกลัวแฟนถีบคืน) การได้ช่วยเหลือคนที่ย่ำแย่กว่าเราให้มีความสุข นั่นเป็นการบอกตัวเองว่าชีวิตเรามันมีความหมาย ไม่ได้ไร้ค่าอย่างที่คิด แถมยังได้บุญ ไดุ้กุศล จิตใจผ่องใสเป็นของแถมอีกต่างหาก ได้หลายเด้งเลย
8. ศรัทธาตัวตนของเราที่ดีกว่าในวันพรุ่งนี้
ในข้อแปดนี้ถือเป็นข้อที่สำคัญที่สุด ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ศรัทธาในวันพรุ่งนี้ ไม่เชื่อว่าเราสามารถมีตัวตนที่ดีกว่าเดิม ยอดเยี่ยมกว่าเดิม สุดยอดกว่าเดิม ทั้งเจ็ดข้อที่กล่าวมาแทบจะไม่มีความหมายใดๆเลย ขอเพียงคุณเชื่อว่าคุณสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขขึ้น รวมไปถึงมีโอกาสประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เท่านี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเยี่ยมของการเปลี่ยนแปลงตัวเองจนเพื่อนตะลึงแล้วครับ…!!!
ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่าน ค้นพบศักยภาพที่แท้จริง ทำชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น และมีความสุขมากขึ้นในทุกๆด้าน ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเอาวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าได้ ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนสามารถพัฒนาดวงชะตาของตัวเองได้ด้วยการกระทำ อย่ายอมให้กรรมเก่ามาลิขิตชะตาชีวิตคุณ และที่สำคัญ ผมรับประกันโดยที่ผมไม่ได้อะไรเลยครับ ว่าถ้าใครทำตามวิธีการที่ผมแนะนำ ชีวิตโครตมีความสุขกว่าเดิม 8 เท่า ด้วย 8 ข้อนี้อย่างแน่นอน…!!!
และถ้าใครทำแล้ว ปรากฏว่าไม่เห็นจะมีความสุข ชีวิตรู้สึกเน่า แย่ และไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม เชิญมากระทืบผมที่บ้านได้เลยครับ แต่ก่อนมากรุณาโทรบอกก่อนนิดนึงนะครับ จะได้เตรียมตัวหอบข้าวหอบผ่อน ผมไม่ได้กลัว