หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รถไฟชีวิต

Image result for ทางรถไฟ

มีสถานีเริ่มต้น
มีเส้นทางเดินรถ
อาจพบเจอกับอุบัติเหตุ
และมีสถานีปลายทาง.....

ในวันที่เราเกิดมา พ่อและแม่เป็นผู้มอบตั๋วรถที่ไม่ได้บอกสถานีปลายทางให้แก่เรา
ท่านเป็นผู้ส่งเราขึ้นรถ เราคิดว่าพ่อและแม่จะเดินทางเป็นเพื่อนเราจนสุดเส้นทาง
แต่ทว่า พ่อกับแม่อาจลงที่สถานีใดสถานีหนึ่ง ที่เหลือก็มีเพียงเราเองที่ต้องเดินทางต่อไป

ระหว่างทาง เราได้พบเจอกับนักท่องเที่ยวคนสำคัญในชีวิต คือ ญาติพี่น้อง มิตรสหาย สามีหรือภรรยาและบุตรหลานอันเป็นที่รัก บนเส้นทางนั้น ไม่สถานีใดก็สถานีหนึ่ง เขาทั้งหลายก็ต้องลงจากขบวนรถ อย่างไม่มีวันกลับขึ้นมานั่งรถได้อีกตลอดไป

บางครั้ง เราอาจไม่รู้เสียด้วยซ้ำไป ว่าเขาทั้งหลายลงจากรถไปเมื่อใด และสถานีไหน?

บนเส้นทางนี้ เต็มไปด้วยเสียงเพลง เสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ เสียงคร่ำครวญ
ความฝัน ความหวัง ความรัก ความแค้น ความชิงชัง ความโศกเศร้า ความยินดี
ได้พบเจอ อยู่ร่วม พลัดพราก และจากลากันนิรันดร...

ทิวทัศน์งามตาที่ได้พบ ผู้โดยสารต้องรู้ช่วยเหลือ เกื้อกูล หนุนส่ง รักใคร่ปรองดองต่อกัน

เคล็ดลับในการนั่งอยู่บนขบวนรถไฟลำนี้

เพราะเราก็ไม่รู้ว่าสถานีสิ้นสุดของเราอยู่ที่ไหน? เราจึงต้องรู้จักรับมือกับสถานการณ์ชีวิต อยู่กับปัจจุบัน ต้องรู้จักปรับเปลี่ยน กล้าที่จะปล่อยวาง ต้องรู้โอบอุ้มและให้อภัยผู้ร่วมขบวน
เพราะเมื่อถึงสถานีที่เราจะต้องลง จะได้เหลือความทรงจำดีๆไว้ให้คนที่ยังนั่งอยู่บนขบวนรถไฟนั้นได้จดจำ ต่อไป.....

ฝากไว้ให้คิด  โลกเราจะน่าอยู่มากขึ้น ถ้าเราใช้ชีวิตอย่างตื่นรู้ อยู่กับปัจจุบัน

Today is yours to shape.
Create a masterpiece.

วันนี้คือโอกาสที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุด - สตีฟ มาราโบลี

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

คิดอย่างยอดคน


• ฟ้ามิได้แบ่ง 'ยอดคน' กับ 'คนธรรมดา' ออกจากกัน
ยอดคนจะปรากฏขึ้นเสมอ แต่นั้นมิใช่เพราะ 'ฟ้ากำหนด'
การที่ "ยอดคน"ปรากฏขึ้นได้ เพราะ เขาผ่านการ "ฝึกฝน" และ "เรียนรู้" ที่จะเป็นยอดคน
..........................................

• "อัจฉริยะ" ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
แต่เป็นสิ่งที่ ถูกสร้างขึ้นมา
ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด
คนเก่งได้นั้นต้องได้รับการฝึกฝน ม้าดี ต้องมีคนขี่ม้ามาฝึกฝน ..
นักกีฬาที่ดีต้องมีโค้ชที่ดี มาฝึกฝน

• Don't Look Down Yourself.
อดีตไม่สำคัญว่าเราเป็นใคร สำคัญที่ว่าวันนี้และวันหน้าเราต้องการเป็นใคร ...อย่าเอาอดีตของตัวเองมาตัดสินอนาคตของตัวเอง
จงเห็นคุณค่าในตัวเอง เคารพนับถือในความสามารถที่มีอยู่ของตัวเองหากเราไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนาตัวเองแล้วตัวเราเองจะกลายเป็นผู้สำเร็จและยิ่งใหญ่ได้ ยกย่องและให้เกียรติตัวเอง

• สมองของคนเราเหมือนพื้นดินที่ว่างเปล่า
เมื่อเราปลูกอะไรลงไปเราก็จะได้ผลเป็นอย่างนั้น
จงปลูกฝังแต่สิ่งดีๆลงไปในสมอง
คำพูดใดๆ ที่เราเคยได้ยินซ้ำๆหรือ
การกระทำสิ่งใดซ้ำๆติดต่อกัน
เกิน 49 วัน
มันจะกลายเป็น "นิสัย" ของเรา
จงคุยกับตัวเองแต่เรื่องดีดีทุกๆวันมันคือเคล็ดลับของทุกความสำเร็จบนโลก

• สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกคือ
"สิ่งแวดล้อม"อย่าปล่อยให้ความคิด หรือคำพูดราคาถูกของคนบางคนมากำหนดชีวิตของเรา
ในโลกนี้ไม่มีใครมีอิทธิพลกับตัวเรา นอกจากตัวเราเอง อย่าตกเป็นเหยื่อคำพูดของใครที่พูดไปแม้แต่คนพูดไปก็ไม่ได้คิด

• ชีวิตไม่ใช่เกมส์กีฬา ไม่มีเวลาพักครึ่ง ไม่มีการขอเวลานอก
และที่สำคัญคือ 'เปลี่ยนตัวผู้เล่นไม่ได้' ไม่มีใครเกิดมา 'ล้มเหลว' ถ้าไม่ 'ล้มเลิก'
.........................................

• คนฉลาด.. ต้องโง่เป็น
คนโง่ไม่เป็น..จะไม่มีทางฉลาด

• เพียงคุณคิดว่าคุณทำได้
คุณก็ทำได้ตั้งแต่ที่คุณคิด
แต่หากคุณคิดว่าคุณทำไม่ได้
คุณก็ทำไม่ได้ตั้งแต่ที่คุณคิด
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์
คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ 'ทางจิต' ที่ ตอกย้ำตัวเองว่า .. ทำไม่ได้

• แม้แต่ "คิด" ยังไม่กล้าที่จะคิด แล้วชีวิตจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
จงกล้าที่จะเผชิญความล้มเหลว.. ความล้มเหลวคือครูที่ดีที่สุดที่เข้ามาเพื่อทดสอบตัวเรา
If you want to have success, you have no choice.
ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต สิ่งที่คุณจะต้องเจอคือ" ความล้มเหลว"
อย่ากลัวความล้มเหลวเพราะมันมากับความสำเร็จคุณเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
อยากสำเร็จไวจงรีบออกไปพบความล้มเหลวให้ไวๆ เราจะได้พบกับความสำเร็จไวๆ เช่นกัน

• มนุษย์ คือจุดศูนย์กลางของเส้นรอบวงที่ไม่มีขีดจำกัด
ทำไมมนุษย์เหมือนกันจึงประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน
นั่นเป็นเพราะ มนุษย์แต่ละคนได้รับโอกาสทางความคิดที่แตกต่างกัน การลงมือทำตามความคิดจึงแตกต่างกัน

• คนสำเร็จมองปัญหาเป็นโอกาส คนล้มเหลวมองโอกาสเป็นปัญหา
คนสำเร็จจะปรับตัวเองไปหาโลกภายนอก
คนล้มเหลว จะให้โลกภายนอกปรับเข้าหาตัวเอง
..........................................

• คนสำเร็จ ผู้นำขององค์กรต่างๆ ในโลกนี้ กว่า 85%ทั่วโลก
ล้วนแล้วแต่มิใช่คนเก่ง แต่เขาเหล่านั้นส้วนเป็นคนดีทั้งสิ้น
คนเก่งนั้น..ใช้เวลา 2-3 ปี ก็สอนให้เก่งได้ ..
แต่.. คนดีต้องใช้เวลา "ชั่วชีวิต" ในการพากเพียร คนเก่งอาจหาได้ง่ายๆ แต่คนดีสิหายากจริงๆ
คนเก่งถ้าขาดความจงรักภักดี ไม่มีความกตัญญู
ก็เป็นได้แค่เก่ง แต่คนดี ดูได้จาก ความกตัญญูรู้คุณ

• "ความรู้" เป็นเพียง "พลังอำนาจแฝง" ชนิดหนึ่งเท่านั้น
"ความรู้" จะกลายเป็น "พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่" ได้ก็ต่อเมื่อมันถูกนำ ไปใช้อย่างชาญฉลาด

• ฟัง..แต่..ไม่ได้ยิน
ได้ยิน..แต่..ไม่เข้าใจ เข้าใจ..แต่..ไม่ลึกซึ้ง
ลึกซึ้ง..แต่..ไม่แตกฉาน แตกฉาน..แต่..นำไปใช้ไม่ลงมือทำก็ไม่เกิดประโยชน์และผลลัพธ์
จงนำศักยภาพ และอัจฉริยภาพ ที่ซ่อนเร้นในตัวเรา มาใช้อย่างชาญ ฉลาด เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว สังคม ของเรา...

"ชีวิตของเราสั้นนักเกินกว่าที่จะอยู่อย่างกระจอกงอกง่อย"

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

"คำสอนของเตี่ย"

ฉันเป็นลูกชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อครั้งหนีภัยสงคราม เหล่ากง เหล่าม่า ต้องหอบลูกกระเตงหลาน เสื่อผืนหมอนใบ ข้ามน้ำ ข้ามทะเล หนีตายมาเมืองไทย
เตี่ยเล่าให้ฟังว่า อยู่เมืองจีนลำบากมาก ข้าวปลาอาหารไม่มีกิน มีแต่ความแห้งแล้ง ผู้คนแย่งกันกิน แย่งกันใช้ ตระกูลของเราได้เข้ามาอาศัยแผ่นดินไทย ตั้งแต่ สมัยรัชกาลที่ 7 (เรียกว่าเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร แต่เตี่ยพูดไม่เป็น ) ตระกูลของเรายึดอาชีพค้าขาย คนจีนชอบค้าขาย ไม่ชอบเป็นลูกจ้างใคร สมัยนั้นลูกจ้างก็คือ กุลี ยากจนไม่มีความมั่นคง ถ้าคนจีนไม่ค้าขายก็ต้องไปเป็นกุลี ใช้แรงงานขายแรงงาน

อากงมีวิชาทำก๋วยเตี๋ยวติดตัวมา อากงจึงทำโรงก๋วยเตี๋ยว อาแปะทำโรงซีอิ๊ว อาโกเปิดร้านค้าขาย อาเจ็กไม่มีวิชาอะไร จึงไปเรียนวิชาชีพเป็นช่างไฟและจบออกมาเปิดร้านค้าขายอุปกรณ์ไฟฟ้า ตระกูลของเราก็ได้ถ่ายทอดวิชาค้าขายต่างๆ สืบทอดกันมาจนปัจจุบัน

เตี่ยเป็นคนชอบชิม ชอบทาน เตี่ยทำอาหารเก่งมาก จึงยึดอาชีพทำโต๊ะจีน พวกเราก็พลอยได้กินอาหารเหลา อาหารอร่อย ระดับภัตตาคาร ฝีมือพ่อครัวขั้นเทพมาตั้งแต่เด็กๆ ก๊วนกุ๊กเพื่อนรักกับเตี่ยก็คือ เจ้าของเรือนเพชรสุกี้ยากี้ ถนนเพชรบุรี และอีกคนก็ เจ้าของภัตตาคารเจ้าพระยา เตี่ยบอกว่า อยู่เมืองไทยยังไงก็ไม่อดตาย ทำอะไรก็ขายได้ ขอให้ทำของดี อร่อยจริง และ ราคาไม่แพงเกินไป

และต่อไปนี้ คือเรื่องเล่า ข้อคิด คำสอนจากเตี่ยของฉัน

1. ฉันมักจะเห็นเตี่ย ใส่กางเกงตูดปะ ตูดขาด ไม่พิถีพิถันที่จะแต่งตัวให้เรียบร้อยเหมือนคนอื่นเขาบ้าง จะได้สวยงามดูดี ไม่ทำให้ฉันต้องอายเพื่อน ฉันจึงถามเตี่ยว่า ทำไมเตี่ยไม่แต่งตัวดีดีเหมือนคนอื่นเขา เตี่ยตอบว่า
"เราเป็นคนจีนเนี่ย ปากท้องต้องมาก่อน อยู่เมืองจีน เราลำบากมาก แย่งกันกินแย่งกันใช้ พื้นดินสีแดง แห้งแล้ง อดอยาก ยากจน ไม่มีใครจะมาใส่ใจสนใจเรื่องเสื้อผ้า เรื่องแต่งตัว ขอแค่ได้กินอิ่ม กินดีดี มีชีวิตอยู่รอดก็ดีใจมากแล้ว จำไว้นะลูก ใส่กางเกงตูดขาดไม่เป็นไร แต่ปากท้องเราต้องอิ่ม คนในครอบครัวเราต้องกินอิ่ม "

2. เมื่อเริ่มมีเงิน อย่าเอาเงินไปซื้อของปรนเปรอตนเองทั้งหมด ต้องเก็บเงินไว้ลงทุน ขยายธุรกิจต่อไปด้วย

3. ขายอาหารจานเดียวนะ อย่าขายอาหารตามสั่ง อาหารจานเดียว ทำให้อร่อย อร่อยจริงๆ แค่อย่างเดียวพอ ก็รวยได้ อาหารตามสั่ง ทำไม่ทัน ทำเยอะก็ไม่ได้ ไม่ทันรวยเหนื่อยตายก่อน

4. ต้องหัดฟังเพลงเก่าๆ มั่ง เพลงเก่าๆ มันไพเราะน่าฟัง เพลงสมัยพวกแก มันไม่มีอะไรเลย ตะโกนกันโหวกเหวก มันเป็นเพลงตรงไหน

5. อย่าไปดองกับคนไม่ดี ลูกหลานไปมีครอบครัว ถ้าไปแต่งงานกับคนไม่ดี ตระกูลไม่ดี เป็นนักเลง ติดยา ติดการพนัน ขี้โกง เห็นแก่ตัว ขี้เหนียว ไม่รักญาติพี่น้องไม่เอาใคร ดองกันไป ก็เดือดร้อนทั้งตระกูล เพราะคนจีนเราผูกพันกัน เกี่ยวพันกันเป็นครอบครัวใหญ่

6. ถ้าหาแฟนดีดีไมได้ ไม่มีใครรัก ไม่มีใครดีกับลูก ไม่ต้องห่วงนะ ไม่ต้องไปฟูมฟายเสียใจหาใครเค้า ลูกสาวคนเดียวเตี่ยเลี้ยงได้

7. เป็นพี่น้อง ต้องรักกันมากๆ อย่าทะเลาะกัน อย่าตีกัน พ่อแม่จะนอนตายตาไม่หลับ

8. เตี่ยตื่นตีสี่ ตีห้าทุกวัน เตี่ยบอกว่า เราตื่นก่อนเขาก็ทำงานก่อนเขา มีเวลามากกว่าเขาวันละ 1 ชม. ชีวิตเราก็ล้ำหน้าคนอื่นไปแล้ว วันละ 1 ชม. ทำให้นึกถึงคำคนจีนว่า " อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา "

9. มีวัดอยู่ใกล้บ้าน ใกล้ชุมชนต้องดูแล ไม่ใช่เอาแต่หอบเงินขึ้นเหนือล่องใต้ ไปทำบุญวัดโน้น วัดนี้ แต่วัดในชุมชนตนเองหมู่บ้านตนเองไม่ดูแลเลย เราเกิดที่นี่โตที่นี่เราต้องดูแลบ้านของเรา

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ผู้หญิงโปรดอ่าน

ผู้ชายก้รู้ไว้ไม่เสียหายนะ
ตำรวจชาวออสเตรเลียได้เขียนสิ่งนี้ขึ้นเพื่อผู้หญิงทุกคน
1. เคล็ดลับจากวิชาเทควันโด้
ข้อศอกเป็นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดในร่างกายของมนุษย์ หากคุณอยู่ใกล้คนร้ายในระยะที่จะใช้มันได้ จงใช้มันซะ!
2.เคล็ดลับจากสมุดแนะนำนักท่องเที่ยว ถ้าคนร้ายต้องการกระเป๋าเงินหรือของมีค่าของคุณ อย่ายื่นให้กับเขา
จงโยนกระเป๋าเงินของคุณไปให้ไกลจากตัวเอง..
โอกาสที่คนร้ายจะสนใจกระเป๋าเงินของคุณนั้นมีมากกว่าที่จะสนใจคุณ และนั่นจะทำให้เขาต้องไปหยิบกระเป๋าเงินที่อยู่ห่างจากตัวคุณ ตอนนี้แหละ จงวิ่งไปอีกทิศทางหนึ่งให้เร็วที่สุด
3. ถ้าคุณเกิดถูกลากหรือโยนเข้าไปในท้ายรถของคนร้าย สิ่งที่คุณควรทำคือ
ให้ถีบไฟท้ายจนหลุดออกมา ยื่นแขนของคุณออกมาจากช่อง แล้วเริ่มโบกมืออย่างบ้าคลั่ง คนขับไม่เห็นสิ่งที่คุณทำ แต่คนอื่นจะเห็น
วิธีนี้ได้ช่วยหลายต่อหลายชีวิตมาแล้ว..
4. คุณผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะนั่งอยู่บนรถเฉยๆ หลังจากช้อปปิ้ง เที่ยว กิน หรือ ทำงานเพื่อจะแต่งหน้า เปิดผ่านหนังสือ เช็คโทรศัพท์ ฯลฯ ห้ามทำเป็นอันขาด! คนร้ายจะคอยเฝ้าดูพฤติกรรมของคุณ และสิ่งที่คุณทำเป็น
การเปิดโอกาสอันเหมาะสมเพื่อให้เขาเข้ามาทางที่นั่งข้างคนขับ และเอาปืนจ่อหัวคุณเพื่อจะให้คุณขับไปตามทางที่เขาต้องการ
เพราะฉะนั้น....ทันทีที่คุณขึ้นรถจงล็อคประตู และรีบออกรถซะ !
แต่ถ้าเกิด.... คนร้ายอยู่บนรถกับคุณ และเอาปืนจ่อขมับคุณไว้ อย่าขับรถออกไปตามที่เขาบอก
ย้ำ: อย่าขับรถออกไปตามที่เขาบอก สิ่งที่คุณควรทำ คือ
เหยียบคันเร่งให้เร็วที่สุด ขับพุ่งใส่กำแพงหรือสิ่งกีดขวางในละแวกนั้น
ถุงลมนิรภัยฝั่งคุณจะช่วยชีวิตคุณไว้ (เช่นเดียวกับฝั่งคนร้ายหากคนร้ายนั่งเบาะหน้า) (หากคนร้ายนั่งอยู่เบาะหลัง เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส)
แต่ทันใดที่รถของคุณชน ให้รีบถอนตัวออกมา(จากถุงลมนิรภัย)
แล้ววิ่งออกจากรถสุดแรงเกิด วิธีนี้จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตรงที่คุณสามารถวิ่งเข้าหากลุ่มคนเพื่อขอความช่วยเหลือได้ หากคุณออกรถไปที่ไกลๆ ตามเส้นทาง/สถานที่ที่คนร้ายบอกจะทำให้คนร้ายตามตัวคุณได้ง่าย
เพราะคุณไม่รู้จักสถานที่นั้นดีเท่าเขา
5. ข้อแนะนำสำหรับการเดินไปที่รถของคุณ ในลาน/โรงจอดรถ
5.1จงระวัง: มองไปรอบๆ ตัวของคุณ มองเข้าไปในรถของคุณ มองลอดไปบนพื้นฝั่งที่นั่งข้างคนขับ และเบาะหลัง
5.2 ถ้ารถของคุณมีรถตู้จอดอยู่ข้างๆ ให้ขึ้นรถทางฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับ คนร้ายจะจู่โจมเหยื่อของมันโดยการฉุด ขึ้นรถตู้ในขณะที่เหยื่อกำลังจะเปิดประตูขึ้นรถ เพราะฉะนั้นรถตู้น่าสงสัยเหล่านี้จึงมักที่จะจอดอยู่ฝั่งคนขับ
5.3 ให้มองไปที่รถที่จอดอยู่ข้างๆ คุณทั้งสองข้างของรถ ถ้าเจอผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวในฝั่งที่อยู่ใกล้รถของคุณมากที่สุด
สิ่งที่คุณควรทำคือ เดินกลับเข้าไปในห้าง หรือออฟฟิสเพื่อขอให้ รปภ หรือตำรวจเดินมากับคุณ เพื่อส่งคุณขึ้นรถ ไม่ต้องไปคิดมากกว่าคนอื่นหรือตำรวจจะมองคุณโรคจิตหรือเปล่า เพราะการระมัดระวังเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในสถานการณ์อันน่าสงสัยนั้น
จงตระหนักอยู่เสมอว่า ปลอดภัยไว้ก่อน...
6. จงใช้ลิฟต์ตลอดแทนที่จะใช้บันใด เพราะบันใดเป็นสถานที่ที่แย่ที่สุดที่ผู้หญิงจะอยู่คนเดียว มันเป็นที่ๆ เพอร์เฟคสำหรับคนร้าย และน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งในยามวิกาล
7. ถ้าคนร้ายมีปืนแต่คุณไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
จงวิ่ง!! เพราะโอกาสที่คนร้ายจะยิงถูกคุณมีเพียง 4 ครั้งใน 100 ครั้งเท่านั้น (เป้าวิ่ง) และเป็นไปได้สูง ว่าจะไม่โดนอวัยวะสำคัญ วิ่งงงงงงง!!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...การวิ่งซิกแซก
8. จุดอ่อนของผู้หญิงส่วนใหญ่คือ ขี้สงสาร ขี้เห็นใจ จงหยุดซะ!!
เท็ด บันดี้ เป็นฆาตรกรหน้าตาดี และการศึกษาสูง เขาใช้จุดอ่อนข้อนี้ของผู้หญิงเพื่อลวงมาฆ่าเสมอ เพราะฉะนั้นจงมีเหตุมีผล ดูสถานการณ์ด้วยความระมัดระวัง .... "จงช่างสังเกต" หากพบข้อสงสัยแม้เพียงข้อเดียว ก็ควรจะลีกเลี่ยงบุคคลนั้นๆ ให้เร็วที่สุด
9. เรื่องที่ควรตระหนักอีกข้อ:
เพื่อนสาวของได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กตอนกลางคืน
และเธอก็คาดว่าเสียงนั่นดังมาจากระเบียงบ้านของเธอ เธอเลือกที่จะโทรแจ้งตำรวจแทนที่จะออกไปดูด้วยตัวเอง
นั่นเป็นเพราะว่าเธอมีลางสังหรณ์ว่านั่นอาจจะเป็นกลลวง และตำรวจก็สั่งกับเธอว่า
........“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด”....
เธอจึงเล่าให้ตำรวจฟังอีกว่าเสียงนั่นฟังดูเหมือนว่าเด็กนี่ได้คลานมาใกล้หน้าต่างของและเธอก็เป็นกังวลว่าถ้าหากเด็กคนนี้คลานออกไปถึงถนนก็จะถูกรถชน
ตำรวจจึงสั่งเธอว่า “ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างทางไปบ้านเธอแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ห้ามเปิดประตูเด็ดขาดไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น ตำรวจย้ำถึงสามรอบ”
ตำรวจเล่าให้เธอฟังต่อว่าพวกเขาคิดว่า...
น่าจะเป็นฆาตรกรที่ใช้วิธีเปิดเทปเสียงเด็กร้องไห้เพื่อจะหลอกหล่อให้ผู้หญิงออกจากบ้านมาดู โดยที่ฆาตรกรหวังใช้จุดอ่อนของผู้หญิงคือ ความขี้เห็นใจ ขี้สงสาร นั่นเอง แต่ทางตำรวจก็ยังจับตัวฆาตรกรกลุ่มนี้ไม่ได้ ก่อนหน้านี้ก็มีการโทรมาแจ้งและได้เล่าเรื่องเดียวกัน คือได้ยินเสียงเด็กมาจากนอกบ้าน หน้าต่าง หน้าประตู เวลากลางคืน และทุกสายที่โทรมาแจ้งล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่อยู่บ้านคนเดียวทั้งสิ้น
10. ถ้าคุณตื่นขึ้นมากลางดึกและได้ยินเสียงเหมือนว่าก๊อกน้ำถูกเปิดอยู่หรือท่อน้ำของคุณแตกนอกบ้าน .....ห้ามออกไปเดินสำรวจเด็ดขาด!..... เพราะมีคนกลุ่มหนึ่งจะเข้าไปเปิดก๊อกน้ำบ้านคุณให้สุดเพื่อให้คุณได้ยินและออกมานอกบ้าน นั่นคือเวลาที่พวกเขาจะโจมตีคุณ
ข้อความนี้สำหรับตัวของคุณเองและเพื่อให้คุณได้แบ่งปันให้กับภรรยา ลูก หรือทุกๆ คนที่คุณรู้จักหลังจากที่คุณได้อ่านคำแนะนำที่สำคัญเหล่านี้ ..
คุณอาจต้องการที่จะเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้รับรู้ โปรดส่งต่อให้กับคนที่คุณรักและเป็นห่วง
การระมัดระวังล่วงหน้าไม่ต้องแลกกับความสูญเสีย เพราะฉะนั้นปลอดภัยไว้ดีที่สุด
เมื่อท่านอ่านบทความนี้จบ ท่านมี2ทางเลือก
1. ท่านเผยแพร่ออกไปเต็มความสามารถ ทำให้โลกนี้มีความรักเพิ่มขึ้น
2. ท่านสามารถไม่สนใจ เสมือนหนึ่งท่านไม่เคยเห็นมันเลย
การแบ่งปันเล็กๆของท่าน อาจสามารถช่วยชีวิตคนมากมาย

Cr. พ.ต.ท.ธนกฤษ พาภิรมย์