หน้าเว็บ

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คำพูดดีๆ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คำพูดดีๆ แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เรื่องเล่าของชายตาบอด

ชายสองคนกำลังป่วยหนักด้วยกันทั้งคู่ และถูกจัดให้อยู่ในห้องคนไข้เดียวกัน
ชายคนหนึ่งได้รับอนุญาตให้ลุกนั่งบนเตียง
เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงทุกบ่าย
เพื่อช่วยให้ของเสียไหลออกจากปอดได้สะดวกขึ้น
เตียงของผู้ป่วยคนนี้ตั้งอยู่ ข้างหน้าต่างบานเดียวของห้องนั้น
ส่วนชายที่อยู่อีกมุมหนึ่งต้องนอนจมอยู่บนเตียงตลอดเวลา
เขาทั้งสองมักจะมีเรื่องราวพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเสมอ
ทุกๆ บ่ายเมื่อชายข้างหน้าต่างลุกขึ้น
เขาก็จะเล่าให้เพื่อนร่วมห้องฟังถึงทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่เขามองเห็นผ่านหน้าต่างบานนั้น
ขณะที่ผู้ฟังก็รู้สึกมีความสุขกับห้วงเวลาหนึ่งชั่วโมงดังกล่าว
เพราะไม่เพียงทำให้โลกของเขากว้างขึ้น
หากยังช่วยให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา
กับกิจกรรมและสีสันของโลกข้างนอกนั้นอีกด้วย

......... ครั้งหนึ่ง
เขาได้ฟังการพรรณนาถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
ที่มีเป็ดและห่านเริงเล่นน้ำกันอยู่ในทะเลสาบ
ขณะเด็กๆสนุกสนานไปกับการละเล่นบนเรือ
หนุ่มสาวเดินเกี่ยวก้อยพลอดรักอยู่
ท่ามกลางมวลดอกไม้หลากสีและสายรุ้ง
โดยมีต้นไม้ชราสูงใหญ่เพิ่มความสงบงามให้กับสวน
อีกทั้งยังพลอยเห็นภาพทิวทัศน์ของเมือง
ที่ตัดกับเส้นขอบฟ้าโพ้นไกล
เนื่องจากผู้อยู่ใกล้หน้าต่างได้บรรยาย
ทุกสิ่งอย่างละเอียดลออถี่ถ้วน
ชายอีกมุมหนึ่งจึงจินตนาการตามไปได้อย่างรื่นรมย์
ในบ่ายที่อากาศสบายๆวันหนึ่ง
ชายคนนั้นได้เล่าว่ามีขบวนพาเหรดกำลังเดินผ่านไป
แม้ชายอีกคนจะไม่ได้ยินเสียงดนตรีจากวงดุริยางค์ก็ตาม
เขาก็สามารถสัมผัสมันได้ด้วยใจจาก
ถ้อยบรรยายของเพื่อนร่วมห้องข้างหน้าต่างเป็นอย่างดี
.................
เวลาเคลื่อนคล้อยจากวันเป็นหลายสัปดาห์...
เช้าวันหนึ่ง
พยาบาลประจำเวรได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของเธอ
เพื่อดูแลทำความสะอาดร่างกายให้ชายทั้งสอง
เธอได้พบว่าคนไข้ใกล้หน้าต่างได้สิ้นลมไปแล้ว
เขาจากไปอย่างสงบในขณะกำลังหลับ...
นี่นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจแก่เธออย่างมาก
จากนั้นเธอก็เรียกผู้ช่วยให้นำศพออกไปจากห้อง
เมื่อเวลาผ่านไปพอสมควร
ชายที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้องจึงขออนุญาต
ย้ายไปพักเตียงใกล้หน้าต่าง
พยาบาลยินดีจัดการให้ตามความประสงค์ของเขา
และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย
เธอก็ขอตัวออกไปจากห้อง ปล่อยเขาไว้เพียงลำพัง
แล้วเขาก็ค่อยๆ
ยันตัวเองด้วยข้อศอกข้างเดียวเพื่อจะมองดูโลกข้างนอก
ด้วยสายตาของตนเองเป็นครั้งแรก
แน่ละ...เขาควรจะมีความสุขที่มีโอกาสสัมผัสมันด้วยตนเอง
เขาชะเง้อคออย่างช้าๆ เพื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
แต่แล้ว!
ภาพที่เขาพบกลับเป็นเพียงกำแพงโล่งๆ
ชายผู้นี้จึงสอบถามพยาบาลในเวลาต่อมา
อะไรกันเล่าที่ทำให้เพื่อนผู้จากไปของเขา
เที่ยวได้พรรณนาเป็นคุ้งเป็นแควถึงสิ่งต่างๆ
ที่อยู่นอกหน้าต่างบานนี้ให้เขาฟัง
พยาบาลคนเดิมแจ้งให้เขาทราบว่า...
แท้แล้วชายคนนั้นตาบอด
เขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย แม้แต่กำแพง
"บางทีเขาอาจอยากให้กำลังใจคุณก็ได้!"

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ผู้ชายที่น่ารัก


สองสามวันก่อน แม่ป่วย...
ผู้หญิงใจแข็งคนนั้น ยืนกรานว่าจะไม่ไปโรงพยาบาลโดยเด็ดขาด
เธอกินยาจีน พักผ่อนอยู่บ้าน

เสียงบ่นของแม่...หายไป
กลับมีเสียงของใครอีกคนขึ้นมาแทน...เสียงของพ่อ
พ่อที่ปกติแล้วลูกๆทุกคนลงมติว่า...ดุ และ เงียบขรึม
วันนี้พ่อกลายเป็นผู้ชายขี้บ่นไปซะแล้ว...
พ่อบ่นทั้งวันและทุกวัน
เรื่องที่บ่นก็มีอยู่เรื่องเดียว...บ่นแม่
พ่อบ่นว่า แม่ไม่ยอมไปหาหมอ

แต่...คนขี้บ่นนี่แหละ
ที่ไปปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยา
ซื้อหายาอมแก้เจ็บคอ ยาแก้ไข้ที่แม่ใช้ประจำมาวางไว้ให้ข้างเตียง
พ่อ...ที่ปกติชอบออกไปหากับข้าวแปลกๆข้างนอกกินเป็นกิจวัตร
บ่นว่าเบื่อกินข้าวที่บ้าน

แต่...พ่อก็สั่งเมณี่ไปซื้อกับข้าวที่ร้านโปรดของแม่มากินที่บ้าน
เพียงเพราะไม่อยากให้แม่อยู่บ้านคนเดียว
แม่แตะกับข้าวได้คำเดียว...เอาใจพ่อ
ทั้งๆ ที่เมณี่ก็ว่ากับข้าวอร่อยดี
แต่...พ่อกลับว่า วันนี้เชฟฝีมือตก ทำไม่อร่อย...เลยไม่ถูกปากแม่

แล้ววันนี้...แม่อาการดีขึ้น ลุกขึ้นมาเดินเหินได้นิดหน่อย
บ่น...อยากกินแครกเกอร์กับโกโก้ร้อน
แต่...ของแห้งที่บ้านหมด รวมทั้งแครกเกอร์ยี่ห้อโปรดด้วย
พ่อ...ผู้ชายที่แสดงออกตลอดเวลา...ว่าเกลียดการเดินซูเปอร์มาเก็ต
บอกลูกๆ ว่าน้ำส้มของพ่อหมด ไปซื้อกันเถอะ

พวกเราอมยิ้ม
ผู้ชายปากแข็ง...จะบอกว่าไปซื้อของให้แม่ก็ไม่ได้
ต้องอ้างยังโน้นยังงี้
แต่...แค่ย่างเท้าเข้าห้างสรรพสินค้า
คนจะซื้อน้ำส้มเดินหา...แครกเกอร์
เฮ้อ...

พ่อ...มีโรคประจำตัว...โรคหัวใจ
พ่อต้องเดินช้าๆ เพราะไม่อยากให้หัวใจทำงานหนักเกินไป
แต่ในซุปเปอร์มาเก็ตวันนี้
พ่อเดิน...เข้าช่องโน้น ออกช่องนี้
เพราะแม่กินได้แต่ข้าวต้ม

ข้าวต้มซองชนิดมีกับพร้อมปรุงถูกพ่อกวาดมาทุกชนิด
เครื่องข้าวต้ม...ทั้งผักดอง ผักกระป๋อง
พ่อหยิบทุกขวดทุกกระป๋องมาอ่าน...หายี่ห้อที่แม่ชอบ
ความจริงจะสั่งเมณี่ไปหาซื้อน่าจะง่ายกว่านะ
แต่พ่อก็เลือกที่จะทำเอง
เพราะพ่อเลือกของเหล่านั้น...ด้วยความรัก
เมณี่ทำได้แค่เข็นรถตาม...

แต่แค่นี้ก็ยากแล้วนะ
เพราะเข็นตามไม่ทันสักที
ถ้าเทียบกับใจที่ไปถึงชั้นวางขวดผักดองเรียบร้อยแล้วของผู้ชายตรงหน้า
หลังที่เริ่มคุ้มงอตามวัยของพ่อ
นำอยู่ข้างหน้าหน้าลิ่วๆ

ตาของพ่อ...ที่มีไว้มองผู้หญิงคนเดียวในชีวิต
มองหาแต่สรรพสิ่งที่เหมาะกับแม่
ณ วินาทีนั้น เมณี่อิจฉา...อิจฉาผู้หญิงที่นอนป่วยอยู่ที่บ้าน
อิจฉาแม่ตัวเอง เพราะพ่อที่ลูกๆ คุ้นเคย คือผู้ชายที่ไม่เคยแคร์ใคร...

กับลูกๆ...เรารู้...พ่อรัก
เพราะพ่อแสดงออกกับเราเสมอ
หากกับแม่...พวกเราเพิ่งรู้...พ่อห่วงแม่มากมาย
คงเพราะปกติเราเห็นแต่แม่ที่คอยดูแลพ่อ
โรคประจำตัวพ่อเยอะแยะนี่นา

แม่...ซึ่งเป็นผู้หญิงที่แข็งแรง
อึด...ในสายตาพวกเรา
ยามเมื่อได้รับการดูแลจากพ่อ
ดูเหมือนจะซึ้งไม่ต่างจากเรา
คนซึ่งร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดยี่สิบห้าปี
ดูแลกันและกันยามป่วยไข้
คงไม่มีอะไรน่าชื่นใจไปกว่านี้แล้วมั้ง

เมณี่หันมามองรอบตัว
สักวันข้างหน้า...ยามเมื่อชีวิตได้ผ่านวันเวลา
ทั้งความสุข ความทุกข์ ความโศก
จะมีใครสักคนมั้ย...ที่ยืนข้างๆ เมณี่
ดูแล...ยามที่เมณี่ป่วยไข้

จะมีใครสักคนมั้ย...ที่จำได้
กับแค่แครกเกอร์ยี่ห้อโปรดของเมณี่
จะมีใครสักคนมั้ย...ที่ยอมเดินฝ่าฝูงคนพลุกพล่านที่ตัวเองแสนเกลียด
เพียงเพื่อเครื่องกระป๋อง...
ที่อยากจะเลือกสรรแต่สิ่งดีๆ เพื่อคนอันเป็นที่รัก
จะมีใครสักคนมั้ย...ที่ส่งยาอมแก้เจ็บคอให้เมณี่
พร้อมกับบอกว่า
'คราวก่อนเจ็บคอ กินแล้วหาย นี่ยังเหลือ เอาไปกินสิ'
ทั้งๆ ที่ยาอมหลอดนั้น มันยังไม่ได้แกะ!!!
ผู้ชายที่เก็ก...รักษาฟอร์มแม้แต่กับคนใกล้ตัวใกล้ใจ
ผู้ชายอาไร้...น่ารักชะมัด

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

แด่ทุกคนที่กำลังมีความรัก หรือกำลังได้รับความรัก


1. I love you not because of who you are, but because of who I am when I am with you.
ฉันรักคุณไม่ใช่เพราะความเป็นคุณ แต่ฉันรักคุณเพราะความเป็นฉัน เมื่อฉันอยู่กับเธอ

2. No man is worth your tears, and the one who is, won't make you cry.
ไม่มีผู้ชายคนใดมีค่าพอที่จะทำให้คุณเสียน้ำตา และผู้ชายที่มีค่าพอ ก็จะไม่ทำให้คุณร้องไห้

3. Just because someone doesn't love you the way you want them to, doesn't mean they don't love you with all they have.
การที่ใครบางคนไม่ได้รักคุณอย่างที่คุณต้องการ ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่รักคุณเลย

4. They say love hides behind every corner, then I must be walking in circles.
มีคนบอกว่า ความรักถูกซุกซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ ดังนั้น ฉันก็ควรจะตามหารักเป็นวงกลมซินะ

5. A true friend is someone who reaches for your hand and touches your heart.
เพื่อนที่แท้จริงคือใครบางที่แค่เอื้อมมาจับมือเราก็สามารถสัมผัสใจเราได้

6. The worst way to miss someone is to be sitting right beside them, knowing you can't have them.
ความคิดถึงที่เลวร้ายที่สุด คือการที่ได้นั่งข้างๆ เขาโดยรับรู้ว่า คุณไม่สามารถครอบครองเขาได้

7. Never frown, even when your are sad, because you never know who is falling in love with your smile.
อย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมด แม้เมื่อคุณเศร้า เพราะคุณอาจจะไม่รู้ว่า มีใครบางคนประทับใจกับรอยยิ้มของคุณแค่ไหน

8. To the world you may be one person, but to one person you may be the world.
สำหรับโลกใบนี้ คุณอาจจะเป็นเพียงใครคนหนึ่ง แต่สำหรับใครคนหนึ่ง คุณอาจจะเป็นโลกทั้งใบของเขา

9. Don't waste your time on someone, who isn't willing to waste their time on you.
อย่าเสียเวลาของคุณกับใครที่เขาไม่ยินดีที่จะเสียเวลากับคุณ

10. Maybe God wants us to meet a few wrong people before meeting the right one, so that when we finally meet the person, we will know how to be grateful! .
พระเจ้าอาจจะต้องการให้คุณพบกับคนที่ทำให้คุณเสียใจบ้าง ก่อนที่คุณจะพบคนที่ทำให้คุณสุขใจ
เพื่อที่ว่า เมื่อคุณพบเขาคนนั้นแล้ว คุณจะได้รับรู้ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร

11. Don't cry because it is over, smile because it happened.
อย่าร้องไห้กับช่วงเวลาที่จบลง แต่จงยิ้ม เพราะช่วงเวลานั้นได้เกิดขึ้นกับคุณ

12. There's always going to be people that hurt you, so what you have to do is keep on trusting and just be more careful about who you trust next time around.
ไม่แปลกหรอกนะที่คุณจะเจ็บปวดเพราะใครบางคน ดังนั้น สิ่งที่คุณควรจะทำก็คือ อย่ากลัวที่จะเชื่อใจใคร เพียงแต่เพิ่มความระมัดระวังกับคนที่จะเชื่อใจครั้งต่อไป

13. Make yourself a better person and know who you are before you try and know someone else and expect them to know you.
ทำตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น และรู้จักตัวเองว่าตัวเองเป็นอย่างไร ก่อนที่คุณจะพยายามรู้จักผู้อื่น และต้องการให้ผู้อื่นรู้จักคุณ

14. Don't try so hard, the best things come when you least expect them to.
อย่าพยายามมากเกินไป เพราะสิ่งที่ดีที่สุดมันจะได้มาอย่างไม่คาดหวัง

15. "People are like stained glass windows. They sparkle and shine when the sun is out, but when the darkness sets in, their true beauty is revealed only if there is a light from within. "
คนเรามันก็เหมือนกับกระจกสี ที่มักจะส่งแสงระยิบระยับล้อหลอกกับแสงอาทิตย์ แต่เมื่อความมืดคลืบคลานมาเยือน ก็สามารถแสดงความงามที่แท้จริงที่สะท้อนออกมาจากภายใน

16. "Lucky is the man who is the first love of a woman but Luckier is the woman who is the last love of a man. "
จะเป็นสิ่งที่ดีมากเลยถ้าชายหนุ่มได้เป็นรักครั้งแรกของหญิงสาว แต่จะดีไปกว่านั้น หากหญิงสาวได้เป็นรักครั้งสุดท้ายของชายหนุ่ม

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

I กับ U อะไรสำคัญกว่ากัน


วันนี้เพื่อนน้ำใจส่ง forward mail มาให้  อ่านแล้วยิ้ม กับไอเดียดีๆ ของการเล่นคำในภาษาอังกฤษ เลยอยากเอามาแชร์ให้ผู้อ่านบล็อกของน้ำใจได้อ่านกันค่ะ  ชอบแล้วบอกต่อนะคะ

How can U "SM_LE" without "I"
How can U be "F_NE" without "I"
How can U "W_SH" without "I"
How can U be "FR_END" without "I"
"I" am very important..!
But "I" can never achieve S_CCESS without "U"..!
And that makes "U" more important than "I 

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

คมคำชีวิตคน การเดินทางแห่งชีวิต


"Accept that some days are the pigeon, and some days you are the statue"  - David Brent

ยอมรับเถอะว่า บางวันคุณเป็นนกพิราบขาว และบางวัน คุณก็เป็นรูปปั้นดีๆ นี่เอง

"Man is the only creature that strives to surpass himself, and yearns for the impossible." - Eric Hoffer

คนคือสัตว์โลกเพียงประเภทเดียว ที่มีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเอาชนะตัวเอง และโหยหาในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

"Life is like a multiple choice question, sometimes the choices confuse you, not the question itself." - no mane

ชีวิตเปรียบเหมือนคำถามที่มีหลายคำตอบให้เลือก บางครั้งคำตอบนั้นเองที่ทำให้คุณสับสน หาใช่คำถามไม่

"It is better to travel hopefully than to arrive disenchanted."  - Japanese poem
การเดินทางด้วยความหวัง ย่อมดีกว่าการไปถึงจุดหมายที่น่าผิดหวัง


วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

คมคำความกลัว


"Fear kills everything.  Your mind, your heart, your imagination." - Eric Hoffer

"ความกลัวฆ่าได้ทุกสิ่ง  ทั้งจิตวิญญาณ หัวใจ และจินตนาการ"

ขอพวกเราอย่าให้มีความกลัวอยู่ในจิตใจ ขอจงมีความกล้าหาญ กล้าคิด กล้าทำ กล้าพูด ถ้าเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราคิดอยู่ ทำอยู่ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ดีแล้ว จงมุ่งมั่นและทำมันต่อไป ความสำเร็จอยู่ไม่ไกล แค่เรากล้าก้าวไปข้างหน้าเท่านั้นเอง

จาก บ้านน้ำใจ