หน้าเว็บ

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คำคม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คำคม แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554

A-Z Friends เพื่อน จาก A ถึง Z


Always be homest , would you want them to lie to you?
จงซื่อสัตย์เสมอ...... คุณต้องการให้เพื่อนโกหกคุณเหรอ

Be there when they need you, or you may wind up alone
จงอยู่เคียงข้างเมื่อเขาต้องการ.....หรือคุณต้องการจะอยู่คนเดียว

Cheer them on, wi all need encouragement now and then
ให้กำลังใจ......เราทุกคนต่างก็ต้องการการสนับสนุนเป็นบางครั้ง

Don't look for their faults, even if you have none
อย่ามองหาข้อผิดพลาดของเขา.....แม้ว่าคุณจะไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่ข้อเดียว

Encourage their dreams, what would we be without them?
สนับสนุนให้เขาทำตามความฝัน.......เราจะอยู่อย่างปราศจากความฝันได้อย่างไร

Forgive them, you just may do somethin wrong sometime
ให้อภัย ....คุณอาจจะเคยทำผิดพลาดในบางเวลา

Get together often, misery loves company, so does glee
เจอกันบ่อยๆ...... เมื่อมีความทุกข์ ต้องมีเพื่อนเพราะการคบค้าสมาคมทำให้เกิดความสนุกสนาน

Have faith in them, the human animal is remarkable
มีศรัทธาในเพื่อน.....การมีศรัทธาเป็นสิ่งที่แบ่งแยกมนุษย์ออกจากสิ่งมีชีวิตอื่น

Include them, you mayneed to be included sometime
รวมเขาเข้าไปด้วย......คุณก็อาจจะต้องการถูกรวมบ้างบางครั้ง

Just be there when they need you
อยู่ข้างๆ.......เมื่อเขาต้องการคุณ

Know when they need a hug, and couldn't you use one?
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาต้องการให้กอด...เคยกอดเพื่อนบ้างหรือยัง

Love them unconditionally, that is the only condition
รักโดยไร้ข้อแม้........นี่เป็นเพียงเงื่อนไขข้อเดียวเท่านั้น

Make them feel spicial, because aren't we all special?
ทำให้เขารู้สึกเป็นคนพิเศษ.. เพราะเราทุกคนก็เป็นคนพิเศษไม่ใช่เหรอ

Never forget them, who wants to feel forgotten
อย่าลืมเพื่อน........ ใครบ้างอยากถูกลืม

Offer to help, and know when " Nothanks" is just politeness
เสนอตัวที่จะช่วยเหลือ......และควรรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คำว่า "ไม่เป็นไร ขอบคุณ "เป็นคำพูดแค่เพื่อมารยาท

Praise them honesly and openly
ยกย่องเพื่อนอย่างจริงใจ และเปิดเผย

Quietly desagree, noisy No's make enemies
อย่าโต้แย้งอย่างโจ่งแจ้ง........การทำเช่นนั้นก่อให้เกิดศัตรู

Really listen, a friendly ear is a soothing balm
ตั้งใจรับฟัง.......การรับฟังของเพื่อนคือยารักษาอาการ

Say you're sorry, don't let them assume it
กล่าวคำขอโทษ.......อย่าปล่อยให้เพื่อนต้องสันนิษฐานเอาเอง

Talk frequently, connunication is important
พูดคุยกันบ่อยๆ ........การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ

Use good judgement
ใช้ข้อตัดสินที่ดี

Verbalsise your feelings
อธิบายความรู้สึกของคุณเป็นคำพูด

Wish them luck, hopeftlly good
อวยพรให้โชคดี ..........หวังว่าเขาจะพบแต่เรื่องดี

Xamine your motives before you "help" out
ตรวจสอบเจตนาของคุณ ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือ

Your words count, use them wisely
คำพูดของคุณมีค่า ......จงใช้อย่างชาญฉลาด

Zip your lips when they told a secret
ปิดปากให้สนิทเมื่อเพื่อนบอกความลับ

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

I กับ U อะไรสำคัญกว่ากัน


วันนี้เพื่อนน้ำใจส่ง forward mail มาให้  อ่านแล้วยิ้ม กับไอเดียดีๆ ของการเล่นคำในภาษาอังกฤษ เลยอยากเอามาแชร์ให้ผู้อ่านบล็อกของน้ำใจได้อ่านกันค่ะ  ชอบแล้วบอกต่อนะคะ

How can U "SM_LE" without "I"
How can U be "F_NE" without "I"
How can U "W_SH" without "I"
How can U be "FR_END" without "I"
"I" am very important..!
But "I" can never achieve S_CCESS without "U"..!
And that makes "U" more important than "I 

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เสน่ห์ผ้าขี้ริ้ว เสน่ห์ของคน

1. ผ้าขี้ริ้วยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด เสน่ห์ของคนอยู่ที่ยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานอยู่สุขสบาย ความสุขแท้ของคนคือการได้ยืนแอบยิ้ม อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้อื่น

2. ผ้าขี้ริ้วดูดซับความสกปรกได้ แต่ก็สลัดความสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา เสน่ห์ของคนอยู่ที่รู้ตัวเองว่าสกปรก ถึงเวลาต้องชำระล้างแล้ว มิใช่อมความสกปรกไว้แล้ว แกล้งบอกว่าตนเองสะอาด

3. ผ้าขี้ริ้วเป็นผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด เหมือนคนที่ฝึกหัดขัดเกลาตนเอง รู้จักถ่อมตนและอ่อนโยน ไม่โอหังอวดดีให้เป็นที่รังเกียจหมั่นไส้ของคนอื่น เขาจะเป็นคนที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะมาจากสกุลใด การศึกษามากหรือน้อยก็ตาม เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดดี เหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง

4. ผ้าขี้ริ้วถึงจะเป็นผ้าไม่มีราคา แต่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ได้ เหมือนคนที่พยายามทำตนให้มีคุณค่า ด้วยการทำงานมิใช่ด้วยการประจบ ทำตนให้มีประโยชน์ ให้มีค่า ไม่ใช่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาชะตาชีวิต ต้องสร้างกำลังใจให้ตนเองอย่ารอคอยจากคนอื่น

5. ผ้าขี้ริ้วไม่เกี่ยงงอนว่าจะถูกใช้เช็ดถูอะไร เหมือนคนที่ยอมตัวอาสาทำงานที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ปริปากบ่น รู้จักอาสาคน อาสาทำงาน ต้องตั้งใจทำงานโดยไม่เกี่ยงงอน ไม่ว่าจะเป็นงานใด ๆ ก็ตาม คนที่ตกงานเพราะไม่ยอมทำงาน

6. ผ้าขี้ริ้วยอมให้ถูกใช้งานในที่สกปรกที่สุด เหมือนคนที่ยอมทำในสิ่งที่คนทั้งหลายรังเกียจ ที่เขาเห็นว่าเป็นงานชั้นต่ำ แต่ก็ตั้งใจทำให้เป็นของมีค่าขึ้นมาได้ หรือยินดีในการบริการ เหมือนคนที่อิ่มเอิบเมื่อได้บริการรับใช้คนอื่น รับใช้สังคม ดีใจเมื่อคนยินดีมาใช้บริการความรู้ ความสามารถของตน และยินดีที่ได้เสนอตัวเข้าไปบริการมากกว่าเข้าไปบริหาร

7. ผ้าขี้ริ้วพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด เหมือนคนควรพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จของคนอื่น ต้องมีความพอใจที่จะทำงานปิดทองหลังพระ เป็นนายอินหรือนางอิน ผู้ปิดทองหลังพระ มีความสุขและภูมิใจที่ได้มอบความสำเร็จให้คนอื่น มีมากที่ผู้น้อยบางคน ทำงานแล้วทำให้ผู้ใหญ่เล็กลง ขณะที่ตัวเองโตขึ้น

8. ผ้าขี้ริ้วทนทานต่อการขัดถูซักล้างไม่เปราะบาง เหมือนคนที่มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็อดทนได้ เพื่อให้สำเร็จ ประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น มีจิตใจหนักแน่นไม่เปราะบางหักง่าย คือไม่เป็นคนทุกข์ง่ายใจเบา แต่นิ่งและหนักแน่นคงดุจแผ่นดิน

9. ผ้าขี้ริ้วแม้จะถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ไม่ทำตัวให้ขี้เหร่ เหมือนคนที่รู้ตัวเองว่า กำลังถูกปรามาสสบประมาท จะต้องตั้งใจเอาชนะอุปสรรค ครั้งนั้นให้ได้ ไม่พ่ายแพ้ต่อคำปรามาสของผู้อื่น รู้ตัวตลอดเวลาว่ากำลังทำอะไรและมีกำลังใจในสิ่งนั้น มองเห็นคุณค่าจากสิ่งที่คนทั้งหลายมองว่าไร้ค่า เมื่อมีปัญหาให้หัดมองสองด้านเสมอ ผ้าขี้ริ้วมีเสน่ห์เพราะยอมสัมผัสกับสิ่งสกปรก

ชีวิตของคนเราก็เช่นกัน หากทนความทุกข์ยากลำบาก ยอมสัมผัสกับงานที่ต่ำต้อยได้ก็จะมีเสน่ห์ และมีความหมาย ทุกคนจึงควรพากเพียรพยายามสร้างเสน่ห์ให้กับชีวิต อย่างที่ผ้าขี้ริ้วสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง 

เราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่าและมองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

คมคำชีวิตคน การเดินทางแห่งชีวิต


"Accept that some days are the pigeon, and some days you are the statue"  - David Brent

ยอมรับเถอะว่า บางวันคุณเป็นนกพิราบขาว และบางวัน คุณก็เป็นรูปปั้นดีๆ นี่เอง

"Man is the only creature that strives to surpass himself, and yearns for the impossible." - Eric Hoffer

คนคือสัตว์โลกเพียงประเภทเดียว ที่มีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเอาชนะตัวเอง และโหยหาในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

"Life is like a multiple choice question, sometimes the choices confuse you, not the question itself." - no mane

ชีวิตเปรียบเหมือนคำถามที่มีหลายคำตอบให้เลือก บางครั้งคำตอบนั้นเองที่ทำให้คุณสับสน หาใช่คำถามไม่

"It is better to travel hopefully than to arrive disenchanted."  - Japanese poem
การเดินทางด้วยความหวัง ย่อมดีกว่าการไปถึงจุดหมายที่น่าผิดหวัง


วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

คมคำความกลัว


"Fear kills everything.  Your mind, your heart, your imagination." - Eric Hoffer

"ความกลัวฆ่าได้ทุกสิ่ง  ทั้งจิตวิญญาณ หัวใจ และจินตนาการ"

ขอพวกเราอย่าให้มีความกลัวอยู่ในจิตใจ ขอจงมีความกล้าหาญ กล้าคิด กล้าทำ กล้าพูด ถ้าเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราคิดอยู่ ทำอยู่ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ดีแล้ว จงมุ่งมั่นและทำมันต่อไป ความสำเร็จอยู่ไม่ไกล แค่เรากล้าก้าวไปข้างหน้าเท่านั้นเอง

จาก บ้านน้ำใจ

วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พ่อ แม่ แฟน และเพื่อน ใครกันที่เรานึกถึง


เวลาไม่มีเงิน...........คนแรกที่คิดถึงคือ พ่อและ แม่

แต่พอมีเงิน.............คนแรกที่คิดถึงคือแฟน และเพื่อน
อยากได้รถ.............คนแรกที่คิดถึงคือ พ่อและ แม่
แต่พอมีรถ..............คนแรกที่จะไปรับคือแฟน และเพื่อน
ร้านอาหารหรูๆ บรรยากาศคลาสิค.....มีไว้สำหรับแฟนและเพื่อน
อาหารบนโต๊ะที่บ้าน..................มีสำหรับพ่อ และแม่

โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า.......มีไว้สำหรับแฟน และเพื่อน
ทีวี และสวนหน้าบ้าน...........มีไว้สำหรับพ่อ และแม่
พ่อ และแม่ คิดบัญชีค่าใช้จ่ายก่อนนอน..เพื่อความอยู่รอด
ลูกนอนคุยโทรศัพท์ เล่นเนต ก่อนนอน...เพื่อให้หลับฝันดี
เวลาเรามีความสุข............มักจะมองหาแฟน และเพื่อน
เวลาเรามีความทุกข์..........คนที่กังวล หดหู่ และเศร้าสลดใจ คือพ่อและแม่
เวลาประสบความสำเร็จ........เรามักมองหาแฟนและเพื่อนเพื่อนัดฉลองและสังสรร.....แต่คนที่ดีใจที่สุดคือพ่อและแม่
.........แต่กลับกลายเป็นคนที่เรามองข้ามไป
ลูกไปรื่นเริงตามโรงหนัง เธค ผับ โต๊ะสนุ๊ก ฯลฯ.......
พ่อและแม่กำลังทำงานหรือนอนหลับเก็บแรงไว้ทำงานหาเงินในวันรุ่งขึ้นเพื่อแลกความสุขของลูก
อยากให้ลูกเรียนสูงๆ
เวลาแต่งงาน.......คนที่เป็นธุระหาสินสอดทองมั่นคือพ่อและแม่.........คนที่มีความสุขคือลูก
พ่อ และแม่ตำหนิ ตักเตือน บางครั้งเต็มไปด้วยอารมณ์...........เพื่อให้ลูกได้ดี
แต่ลูกคิดว่าสิ่งที่ พ่อ และแม่พูด.......เป็นแค่เรื่องไร้สาระ
พ่อ และแม่...คือผู้ฝ่าฟันปัญหา เป็นร้อยพันประการเพื่อลูก
แต่พอลูกมีปัญหา....มักคิดได้แค่ ท้อถอย หดหู่ หรืออยากตาย!!!!
พ่อ และแม่คือผู้ที่ปกป้อง และยืนเคียงข้างลูก จวบจนชีวิตจะหาไม่
ลูกกำลังคิดถึงสิ่งใด...???
เดือนหน้า (สิงหาคม)..เดือนแห่งผู้ที่เราเรียกว่า..."แม่"...มาตั้งแต่ยังแบเบาะ
คำว่า "แม่" อาจเป็นคำแรกที่เราพูดได้ ตั้งแต่เกิด
แม่คือคนที่เราควรคิดถึงอันดับหนึ่ง....ทำอะไรดีๆ ให้ท่านนะคะ