หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2554

เป็นผู้ชนะ หรืิอ ผู้แพ้กันแน่?


พ่อลูกคู่หนึ่งขึ้นชื่อลือเลื่องว่าไม่ยอมแพ้ใคร วันหนึ่งพ่อจัดงานเลี้ยงที่บ้าน จึงให้ลูกชายไปตลาดซื้อเครื่องเคราทำกับข้าว

ขณะที่ลูกชายเดินกลับบ้าน พอถึงสะพานแคบ ก็มีชายคนหนึ่งเดินสวนทางมา ทั้งสองต่างไม่ยอมให้ทางกัน ต่างอ้างว่าเดินขึ้นสะพานก่อน จึงสมควรต้องไปก่อน เถียงกันอยู่นานตกลงกันไม่ได้จึงยืนขวางอยู่อย่างนั้นนานนับชั่วโมง

ส่วนพ่อรอไม่ไหว เพราะแขกมาถึงแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำอาหารเลย จึงออกไปตามหาลูก ถึงที่เกิดเหตุ พอรู้เรื่องเข้าก็เดือดดาล พูดกับลูกชายว่า

“ลูกกลับบ้านไปทำอาหารเลี้ยงแขกก่อน พ่อจะยืนแทนที่ลูกเอง”

คนบางคนนั้นไม่ยอมแพ้ใครคิดแต่จะเอาชนะลูกเดียว แม้แต่เรื่องเล็กน้อย ก็ไม่ยอมลงให้ ผลสุดท้ายก็เป็นฝ่ายเดือดร้อนเอง ถ้าลูกเพียงแต่ยอมหลีกทางให้ ก็ทำอาหารเลี้ยงแขกได้ตรงเวลา และถ้าพ่อไม่ดื้อดึงแข็งขืนคิดเอาชนะแทนลูก ป่านนี้ก็ได้สังสรรค์พร้อมหน้ากับแขกแล้ว

คนที่ดึงดันจะเป็นฝ่ายชนะอย่างเดียว มักลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ สงครามหรือการวิวาทบาดหมางทุกครั้ง แม้จะมีฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าเป็น ‘ผู้ชนะ’  แต่ที่จริงทุกฝ่ายกลับเป็นผู้แพ้เพราะวิบัติยับเยินกันหมด

คนที่มีปัญญานั้นรู้ดีว่าบางครั้งการดึงดันเอาชนะมีแต่จะนำความสูญเสียมาให้ อย่างเรื่องเล่าข้างบนนี้มีแต่คนโง่เท่านั้นที่คิดแต่จะเอาชนะ ชนะแล้วก็ไม่ได้อะไร มีแต่ความถือตัวตนเท่านั้นที่เพิ่มพูนขึ้น ส่วนประโยชน์ที่ควรจะได้กลับหลุดลอยไปหมด

ลองถามตัวเองดูบ้างว่า ที่เราคิดจะเอาชนะเรื่องนั้นเรื่องนี้ คิดรอบคอบแล้วหรือ ภรรยาที่ตั้งหน้าตั้งตาจะเอาชนะสามี(ที่มีหัวใจหลายห้อง) มักลงเอยด้วยการสูญเสียสามีไปนักต่อนักแล้ว พ่อแม่ที่คิดจะเอาชนะลูกจอมดื้อ กี่คนแล้วที่ต้องเจ็บปวดเพราะความดื้อดึงของตน การโอนอ่อนหรือยอมในบางเรื่องที่ไม่สลักสำคัญนั้น บ่อยครั้งสามารถชนะใจคนอื่นได้ ด้วยเหตุนี้โบราณถึงว่า ‘แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร’

ถ้าอยากเป็นผู้ชนะ ลองเอาชนะกิเลสหรือมานะ (ความถือตน) จะมิดีกว่าหรือ

นอกจากการไม่ยอมแพ้ใครแล้ว การไม่ยอมเสียเปรียบใคร ก็ก่อความเดือดร้อนแก่เจ้าตัว อย่างเรื่องข้างล่าง

สองพี่น้องออกเงินซื้อรองเท้าหนังคู่หนึ่ง แต่ปรากฏว่า พี่ชายสวมรองเท้าคู่นั้นเกือบตลอดเวลา เพราะต้องออกไปทำงาน น้องชายไม่แฮปปี้เพราะออกเงินเท่ากัน เวลากลางคืนพอพี่ชายหลับ น้องชายจึงเอารองเท้ามาสวมเดิน

เมื่อรองเท้าขาด พี่ชายชวนน้องให้ออกเงินซื้อรองเท้าคู่ใหม่อีก  น้องชายสั่นหัวทันที แล้วตอบว่า “ขืนซื้อรองเท้าคู่ใหม่ ฉันคงไม่ได้หลับไม่ได้นอนเช่นเคย”

ถ้าไม่อยากเสียเปรียบ ก็ต้องเตรียมใจที่จะเสียอย่างอื่นแทน ลองตรวจดูก็แล้วกันว่าคุ้มหรือไม่

ทีี่มา:
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.facebook.com/notes/phra-paisal-visalo

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554

ความทุกข์เกิดขึ้นเพราะเหตุใด



ทุกข์เพราะ...
คนทุกคนในโลกนี้ ไม่ใช่ทุกข์เพราะเสือกิน
ไม่ใช่ทุกข์เพราะงูร้ายกัด
ไม่ใช่ทุกข์เพราะช้างฆ่า .....
แต่ทุกข์เพราะความโลภ ความโกรธ ความหลงของตน...
จะทุกข์เพราะสิ่งใดๆ ก็ตามตัวความโลภ ความโกรธ ความหลง
นี่แหละเป็นผู้ฆ่า
ความโลภ
ความโกรธ
ความหลง
สามสิ่งนี้ร้ายกาจกว่าสิ่งอะไรทั้งหมด...
ร้ายกว่าผีร้าย ร้ายกว่าเสือร้าย ร้ายกว่างูร้าย...
ไม่มีสิ่งไหนจะร้ายกว่าตัว
ความโลภ
ความโกรธ
ความหลง
เพราะฉะนั้น..ให้ระวังที่สุดในเรื่องของ
ความโลภ
ความโกรธ
ความหลง
สามประการนี้มันสามารถทำให้ผู้รู้แจ้งเป็นคนมืดก็ได้...
ฤทธิ์ของมันน่ะ มันอยู่เหนือทุกคนในโลกที่ได้เกิดมาในโลกนี้
ยกเว้นเสียแต่..."พระอรหันต์"...
ธรรมโอวาทจากหลวงปู่คำดี